คำศัพท์เกี่ยวกับ SEO : ที่คนทำเว็บไซต์ต้องรู้

การทำ SEO (Search Engine Optimization) เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องใช้ความรู้ที่หลากหลาย หนึ่งในส่วนสำคัญที่ไม่สามารถมองข้ามได้ก็คือ Backlink ซึ่งเป็นสิ่งที่มีผลกระทบโดยตรงต่อการจัดอันดับของเว็บไซต์ในหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา เช่น Google การเข้าใจคำศัพท์และแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับ Backlink จะช่วยให้คุณสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพของการทำ SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับคำศัพท์ที่จำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับ Backlink ไม่ว่าจะเป็นการทำ Off-Page SEO, การ Index เว็บไซต์, Backlink แบบ Do-follow และ No-follow และคำศัพท์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้คุณสามารถนำไปปรับใช้ในการทำ SEO ของเว็บไซต์คุณได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มโอกาสในการติดอันดับสูง ๆ ในผลการค้นหาของ Google อย่างมีประสิทธิภาพ

1. Backlink: รู้จักกับพระเอกของ SEO

Backlink คำนี้สำคัญมาก ๆ สำหรับใครที่อยากทำ SEO ให้ดี เพราะมันคือการที่เราได้รับลิงก์จากเว็บไซต์อื่นกลับมาที่เว็บไซต์ของเรา ยิ่งถ้าเว็บไซต์ที่ให้ Backlink กับเราเป็นเว็บที่มีคุณภาพ ก็ยิ่งดีต่อคะแนน SEO ของเรา มันเป็นตัวชี้วัดหนึ่งที่ Google ใช้ในการจัดอันดับเว็บไซต์ ถ้าเว็บเราได้รับ Backlink ที่มีคุณภาพมาก ๆ ก็จะยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือและทำให้เรามีโอกาสติดอันดับสูงขึ้น

Backlink ยังแบ่งเป็นสองประเภทหลัก ๆ คือ Do-follow และ No-follow แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น มาทำความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Off-Page SEO และการ Index กันก่อนดีกว่า

 

2. Off-Page SEO: การเพิ่มคะแนน SEO โดยไม่ต้องทำบนเว็บ

Off-Page SEO หมายถึงการกระทำที่ไม่ได้ทำบนเว็บไซต์ของเราเอง แต่ส่งผลให้เว็บของเรามีคะแนน SEO ดีขึ้น ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือการสร้าง Backlink นั่นเอง การที่เรามี Backlink ที่มีคุณภาพจากเว็บอื่นกลับมาที่เว็บเราจะช่วยเพิ่มคะแนน SEO และทำให้เว็บเรามีโอกาสติดอันดับสูงขึ้น การทำ Off-Page SEO นั้นยังรวมถึงการแชร์ลิงก์บนโซเชียลมีเดีย การเข้าร่วมชุมชนออนไลน์ และการทำความร่วมมือกับเว็บไซต์อื่น ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนลิงก์

นอกจากนี้ การทำ Off-Page SEO ยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของเราอีกด้วย ถ้าเรามีลิงก์จากเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือกลับมาที่เว็บไซต์ของเรา ผู้เข้าชมก็จะรู้สึกว่าเว็บเรามีความน่าเชื่อถือมากขึ้นเช่นกัน

3. Index: การปรากฏในผลการค้นหาของ Google

การที่เว็บไซต์ของเราจะปรากฏในผลการค้นหาของ Google ได้นั้น ต้องผ่านกระบวนการที่เรียกว่า “Index” โดย Google Bot จะเข้ามาสแกนข้อมูลในเว็บไซต์ของเรา และทำการบันทึกข้อมูลเหล่านั้นไว้ในฐานข้อมูลของ Google เมื่อมีการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของเว็บไซต์เรา Google ก็จะดึงข้อมูลเหล่านั้นมาแสดงผล

กระบวนการ Index นี้อาจจะใช้เวลาต่างกันไปในแต่ละเว็บไซต์ บางเว็บไซต์อาจถูก Index ในเวลาเพียงไม่กี่นาที แต่บางเว็บไซต์อาจต้องใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ สิ่งที่เราสามารถทำเพื่อเร่งกระบวนการ Index คือการสร้าง Sitemap และส่งไปที่ Google Search Console รวมถึงการอัปเดตเนื้อหาในเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอ

4. Backlink แบบ Do-follow: เพิ่มคะแนน SEO อย่างมีคุณภาพ

Do-follow Backlink คือการสร้าง Backlink ที่ส่งคะแนน SEO ไปยังเว็บไซต์ปลายทาง พูดง่าย ๆ คือ ถ้าเว็บไซต์ A สร้าง Do-follow Backlink ไปยังเว็บไซต์ B เว็บไซต์ B จะได้รับคะแนน SEO เพิ่มขึ้นจากเว็บไซต์ A ซึ่งจะช่วยให้อันดับของเว็บไซต์ B ในผลการค้นหาดีขึ้น

การได้รับ Do-follow Backlink จากเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือจะช่วยเพิ่มคะแนน SEO ให้กับเว็บไซต์ของเราอย่างมาก แต่ต้องระวังการสร้าง Backlink อย่างไม่มีคุณภาพ เพราะ Google อาจมองว่าเป็นการพยายามจัดอันดับแบบไม่ถูกต้อง (Black Hat SEO) และทำให้เว็บไซต์ของเราโดนลงโทษได้

5. Backlink แบบ No-follow: ความสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

No-follow Backlink คือการสร้าง Backlink ที่ไม่ส่งคะแนน SEO ไปยังเว็บไซต์ปลายทาง พูดง่าย ๆ คือ ลิงก์นั้นจะไม่ช่วยเพิ่มคะแนน SEO ให้กับเว็บไซต์ปลายทาง แต่ก็ยังมีประโยชน์ในแง่ของการเพิ่ม Traffic และสร้างความน่าเชื่อถือ

ตัวอย่างของ No-follow Backlink ที่เห็นได้ชัดคือ ลิงก์จากเว็บไซต์วิกิพีเดีย ซึ่งถึงแม้จะไม่ส่งคะแนน SEO แต่ก็ยังเป็นแหล่งที่มีผู้เข้าชมมาก การมี No-follow Backlink จากวิกิพีเดียก็ยังช่วยเพิ่ม Traffic ให้กับเว็บไซต์ของเราได้ การมี Backlink ทั้งสองประเภทนี้จะทำให้เว็บไซต์ของเราดูเป็นธรรมชาติและน่าเชื่อถือมากขึ้น

สรุป

การเข้าใจคำศัพท์เกี่ยวกับ Backlink และการทำ SEO ที่ลึกซึ้งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับนักทำ SEO ที่ต้องการเพิ่มคุณภาพและความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ Backlink เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ Google ใช้ในการจัดอันดับ การทำ Off-Page SEO, Do-follow และ No-follow Backlink จะช่วยเพิ่มคะแนน SEO และ Traffic ให้กับเว็บไซต์ของเราอย่างมีประสิทธิภาพ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ประโยชน์ในการทำ SEO ของคุณได้ดียิ่งขึ้น