PDPA (Personal Data Protection Act) หรือ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นกฎหมายที่ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนในประเทศไทย กฎหมายนี้กำหนดข้อกำหนดและข้อบังคับเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิ์และความเป็นส่วนตัวของบุคคล และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลในองค์กรต่างๆ ทั้งนี้องค์กรที่เกี่ยวข้องจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดและมาตรฐานที่กำหนดไว้ใน PDPA
การปรับเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ประกอบการทุกคนต้องรู้และปฏิบัติตาม มาดูกันว่าคุณต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้เว็บไซต์ของคุณผ่านมาตรฐาน PDPA
1. ตรวจสอบและประเมินข้อมูลที่เก็บรวบรวม
ก่อนอื่น คุณต้องตรวจสอบข้อมูลที่เว็บไซต์ของคุณเก็บรวบรวม เช่น ชื่อ, อีเมล, เบอร์โทรศัพท์, และข้อมูลการชำระเงิน ตรวจสอบว่าข้อมูลเหล่านี้ถูกเก็บรวบรวมและใช้งานอย่างไร และจำเป็นจริงๆ หรือไม่ การลดจำนวนข้อมูลที่ไม่จำเป็นจะช่วยลดความเสี่ยงในการละเมิด PDPA
2. การจัดการคุกกี้ (Cookies)
การใช้คุกกี้เป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ทำ:
- แจ้งผู้ใช้งานเกี่ยวกับการใช้คุกกี้ โดยแสดงแถบคุกกี้
- อธิบายว่าคุกกี้คืออะไรและคุณใช้งานอย่างไรในนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
- ให้ผู้ใช้สามารถยินยอมรับหรือปฏิเสธการใช้คุกกี้ได้
3. นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
นโยบายความเป็นส่วนตัวควรเขียนให้ชัดเจนและเข้าใจง่าย โดยควรระบุ:
- ประเภทของข้อมูลที่เก็บรวบรวม
- วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม
- ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูล
- วิธีการใช้ข้อมูล
- สิทธิของเจ้าของข้อมูล
นอกจากนี้ ควรทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง Privacy Policy ได้ง่าย ๆ เช่น ลิงก์ในส่วนท้ายของทุกหน้าเว็บ, หน้า Privacy Policy มักจะแสดงเป็น 1 หน้าบนเว็บไซต์
4. ขอความยินยอมจากผู้ใช้ (Consent)
การขอความยินยอมเป็นขั้นตอนสำคัญของ PDPA คุณต้อง:
- ในการกรอกข้อมูลส่วน Checkbox ต้องไม่ถูกติ๊กไว้ล่วงหน้า
- ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมและการใช้ข้อมูลอย่างชัดเจน ก่อนขอความยินยอม
5. ปรับปรุงระบบความปลอดภัยข้อมูล
ระบบความปลอดภัยควรมีมาตรการที่ทันสมัย เช่น:
- การเข้ารหัสข้อมูล (Encryption)
- การใช้งาน HTTPS
- การจัดการสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูล (Access Control)
- การสำรองข้อมูล (Backup)
6. ให้สิทธิ์ผู้ใช้ในการจัดการข้อมูล
PDPA ให้สิทธิ์ผู้ใช้งานในการเข้าถึง แก้ไข และลบข้อมูลส่วนบุคคล คุณควรมีเครื่องมือหรือช่องทางให้ผู้ใช้จัดการข้อมูลของตนเองได้ เช่น หน้าโปรไฟล์หรือแบบฟอร์มติดต่อ
7. เตรียมแผนการตอบสนองเมื่อเกิดข้อมูลรั่วไหล
ควรมีแผนการตอบสนองเมื่อเกิดข้อมูลรั่วไหล (Data Breach Response Plan) ที่ชัดเจน เช่น:
- แจ้งเตือนผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบ
- ติดต่อหน่วยงานกำกับดูแล
- แก้ไขปัญหาและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก
สรุป
การปฏิบัติตาม PDPA อาจดูซับซ้อนในตอนแรก แต่หากคุณปฏิบัติตามขั้นตอนเรานำมาแนะนำ คุณจะสามารถปรับเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับกฎหมายได้อย่างมั่นใจ และที่สำคัญที่สุดคือสามารถปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานได้อย่างปลอดภัย เพราะเรื่อง Privacy เป็นสิ่งที่สำคัญมาก
สำหรับผู้ที่ที่ใช้งานเว็บไซต์ WordPress ขอแนะนำปลั๊กอิน PDPA ที่สามารถติดตั้งได้ฟรี Designil PDPA Thailand